สล็อต pg เว็บตรง แตกหนัก วอ เลท
ที่เที่ยวจังหวัดสิงห์บุรี

หัวข้อ

ที่เที่ยวจังหวัดสิงห์บุรี

ที่เที่ยวจังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรีเป็นจังหวัดในภาคกลางที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ค่อนข้างเยอะ เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นฐานหรือค่ายบางระจันในช่วงอยุธยาตอนปลายมาก่อน นอกจากนี้สภาพแวดล้อมซึ่งมีแม่น้ำตัดผ่านจึงทำให้มีการคมนาคมและการขนส่งสินค้าง่ายยิ่งขึ้นและการเกษตรเองก็ดีมาก ๆ ด้วยจังหวัดที่เก่าแก่ขนาดนี้ทำให้สิงห์บุรีมีแหล่งท่องเที่ยวเกี่ยวกับศาสนาและประวัติศาสตร์เยอะมาก หากใครมีเวลาในช่วงวันหยุดหรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศไปผ่อนคลายในพื้นที่ธรรมชาติ สิงห์บุรีถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก สิงห์บุรี ที่เที่ยวธรรมชาติ ยิ่งโดยเฉพาะคนกรุงเทพจะใช้เวลาขับรถยนต์เพียงแค่ 2 ชั่วโมงกว่า ๆ เท่านั้น ดังนั้นในวันนี้เราจึงรวบรวม ‘ที่เที่ยวสิงห์บุรี’ มาฝากกันในบทความนี้ครับ

ที่เที่ยวจังหวัดสิงห์บุรี

  1. โบสถ์ต้นโพธิ์ วัดไทร ที่เที่ยวจังหวัดสิงห์บุรี

 

ที่เที่ยวจังหวัดสิงห์บุรี วัดไทรเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสิงห์บุรีมานานนับร้อยปี ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าวัดไทรอาจก่อสร้างขึ้นมาตั้งแต่ช่วงสมัยอยุธยา ความพิเศษของวัดนี้ที่ไม่ได้ต่างจากวัดอื่นคือต้นไทรธรรมชาติมีการเลื้อยและปกคลุมโบสถ์อย่างสวยงาม ซึ่งการปกคลุมของไทรทำให้มันช่วยในการบังฝนบังแดด โปรแกรมท่องเที่ยวสิงห์บุรี ดังนั้นจะสังเกตเห็นได้ว่าโบสถ์ของที่นี่ไม่มีหลังคาครับ ทั้งนี้ด้านในโบสถ์เองก็มีความสวยงามและความขลังมาก เพราะมี ‘หลวงพ่อทะยาน’ หรือเรียกกันอีกชื่อว่า ‘หลวงพ่อขาว’ ซึ่งมีสีทองอร่ามประดิษฐานอยู่ด้านในโบสถ์ เป็นองค์ที่ทางชาวบ้านช่วยกันออกค่าใช้จ่ายในการบูรณะให้สวยอยู่ตลอด ต้องบอกว่าสวยและควรเข้าไปกราบสักการะบูชาเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตมาก ๆ

 

  1. อุทยานแม่ลามหาราชานุสรณ์

 

อุทยานแม่ลามหาราชานุสรณ์เหมาะมากสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ เพราะต้นไม้ด้านในอุทยานอุมดมสมบูรณ์และเขียวชะอุ่มมาก ๆ ทั้งนี้ยังมีแม่น้ำสวยทำให้บรรยากาศรวมไปถึงอากาศดีมาก สามารถสูดอากาศบริสุทธิ์กันได้แบบเต็มปอด ทั้งนี้ด้านในยังมีอาคารอีกมากมายให้เราได้เข้าไปศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับพันธุ์ปลาแบบไม่มีค่าใช้จ่าย โดยสิ่งที่ขึ้นชื่อลือชาของจังหวัดคือปลาช่อนแม่ลา เรียกได้มาใครมีโอกาสได้ลองชิมต้องติดใจกับรสชาติอย่างแน่นอน ส่วนใครติดใจกับบรรยากาศของที่นี่แล้วยังไม่อยากกลับบ้าน ทางอุทยานก็พร้อมให้บริการห้องพักซึ่งสบายน่านอนเลยละครับ

 

  1. วัดหน้าพระธาตุ

 

วัดหน้าพระธาตุเป็นอีกหนึ่งวัดที่ควรค่าแก่การเข้าไปแวะชมความสวยงามกัน โดยสถาปัตยกรรมของวัดน่าสนใจมาก ไม่ว่าจะเป็น ฐานโบสถ์ที่มีลักษณะแอ่นโค้งหรือศัพท์ในงานศิลปะเรียกว่า ‘ตกท้องสำเภา’ เป็นศิลปะที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมากในช่วงอยุธยา รวมไปถึงภายในโบสถ์ก็มีภาพวาดการบอกเล่าเกี่ยวกับชาดก พระพุทธศาสนา และวิถีการใช้ชีวิตของชาวบ้าน ซึ่งสวยและน่าสนใจเลยทีเดียวครับ นอกจากนี้ภายในวัดเองก็มีหอไตรกลางน้ำอยู่หลังโบสถ์และพระธาตุให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเข้าไปเคารพบูชากันครับ

 

  1. วัดม่วงชุม

 

ในอดีตวัดม่วงชุมเคยมีชื่อว่า ‘วัดกระดังงา’ ซึ่งวัดนี้เคยเป็นวัดร้างตั้งแต่ในสมัยสงครามไทย-พม่า หรือถ้าย้อนอดีตไปก็คงราว ๆ 400 กว่าปีก่อน ด้วยความที่เป็นวัดอันเก่าแก่จึงทำให้มีการขุดพบเจอพระหินทรายเป็นจำนวนมาก ส่วนความโด่งดังและไฮไลท์ของวัดแห่งนี้คือพระมหาเจดีย์บางระจันที่มีสีทองอร่ามเป็นทรงระฆังคว่ำเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร อีกอย่างคือพระรูปหลวงพ่อขาว หลวงพ่อดำ ซึ่งบอกกันว่าศักดิ์สิทธิ์มากควรไปกราบไหว้เพื่อความสิริมงคล นอกจากนี้ใครเป็นสายปฏิบัติธรรมก็สามารถเข้ามาได้ครับ เพราะที่นี่มีการทำบุญกันอยู่ตลอดในวันสำคัญ

 

  1. ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน

 

ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจันตั้งอยู่ภายในวัดโพธิ์เก้าต้น โดยตลาดแห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ท่องเที่ยวกันแบบครบจบที่เดียว นอกจากจะได้เข้าไปทำบุญในวัดแล้วยังได้เข้าไปหาของกินและช็อปปปิ้งกันอย่างสนุกสนาน ทั้งนี้ตลาดไทยย้อนยุคจะมีกิมมิคของตัวเองคือการตกแต่งต่าง ๆ มีความเป็นพื้นบ้านย้อนยุค รวมไปถึงยังมีการพูดเจ้าคะ/เจ้าค่ะ และการแต่งตัวเองก็ยิ่งทำให้เหมือนหลุดเข้าไปในอดีตอีก ส่วนอาหารการกินก็ครบถ้วนมีทั้งของหวานของคาวราคาหลักสิบบาทให้เราได้เลือกรับประทานกัน อีกทั้งยังมีการแสดงพื้นบ้านให้เราได้ดูกันเพลิน ๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่ที่น่าไปกันครับ

 

  1. วัดพระนอนจักรสีห์

 

ภายในวัดจะมี ‘พระพุทธรูปปางไสยาสน์’ ซึ่งเป็นองค์ขนาดใหญ่ที่มีความยาวกว่า 47 เมตร เรียกได้ว่าเป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ซึ่งมีความใหญ่อันดับหนึ่งของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านหรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านวัดพระนอนจักรสีห์ก็จะต้องมีการแวะเวียนเข้ามาชมความสวยงามขององค์พระและไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต รวมไปถึงในอดีตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร หรือรัชกาลที่ 9 ของเราเองก็เคยพระราชดำเนินมานมัสการอีกด้วยครับ ดังนั้นหากใครมีโอกาสได้แวะเวียนมาจังหวัดสิงห์บุรีผมก็อยากให้มาวัดแห่งนี้กันครับ

 

  1. บ้านข้าวหอม ฟาร์มสเตย์

 

บ้านข้าวหอมไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่พักสำหรับการนอนเท่านั้น แต่เป็นที่พักซึ่งมาพร้อมกับกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับชีวิตความอยู่ของคนพื้นเมืองสิงห์บุรีจริง ๆ โดยกิจกรรมภายในมีทั้งการทดลองทำขนมหวานของไทย, เดินหรือปั่นจักรยานชมท้องนา, ชมการปลูกพืชไร้สารเคมี, ชมเป็ดและห่านที่เล่นอยู่ตามหนองน้ำ รวมไปถึงโรงสีข้าวต่าง ๆ ส่วนห้องพักจะเป็นเรือนไทยยกสูงตามแบบฉบับของคนพื้นเมืองจริง ๆ ถ้าหากตื่นมาในตอนเช้าสามารถมองเห็นหมอกจางได้ผ่านหน้าต่างของเรือนไทย เรียกว่าเป็นการซึมซับความเป็นอยู่ของคนในชุมชนและอาหารไทยอร่อย ๆ บอกเลยว่าถ้าได้เข้ามาแวะเที่ยวแล้วจะติดใจกันครับ

 

บทความที่แนะนำ